21.00 คณะพร้อมกัน ณ สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารต่างประเทศ ชั้น 4 เคาน์เตอร์ D สายการบินไทยโดยมีเจ้าหน้าที่จากบริษัททัวร์ คอยอำนวยความสะดวกก่อนเดินทาง
00.40 เหิรฟ้าสู่เมืองมิลาน...โดยสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG940
07.35 เดินทางถึงกรุงมิลาน ประเทศอิตาลี หลังผ่านพิธีตรวจคนเข้าเมืองแล้ว นำท่านออกเดินทางเข้าสู่เมืองมิลาน นำท่านชม “มหาวิหารแห่งมิลาน หรือดูโอโม” สัญลักษณ์ที่โดดเด่นที่สุดของเมือง อันมีขนาดใหญ่โตมโหฬาร สร้างขึ้นด้วยหินอ่อนสีขาวในศิลปะแบบโกธิค ใช้เวลาสร้างนานกว่า 500 ปี ปัจจุบันเป็น “โบสถ์แคธอลิกที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลก” ลานด้านหน้าเป็นที่ตั้งของพระราชานุสาวรีย์พระเจ้าวิคเตอร์เอ็มมานูเอลที่ 2 ทรงม้า รายล้อมด้วยอาคารที่เก่าแก่คลาสสิคและช้อปปิ้งมอลล์ที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของโลก“แกลเลอเรีย วิคเตอร์เอ็มมานูเอลที่ 2” ที่ใช้เวลาก่อสร้างถึง 12 ปี เป็นอาคารหลังคากระจกโครงเหล็กพื้นโมเสกลวดลายงดงามมาก ภายในประกอบด้วยร้านค้าแบรนด์เนมชื่อดัง เช่น Prada, Louis Vitton, Gucci, Bally, Amani, Moschino , Versace ฯลฯ
เที่ยง บริการอาหารมื้อกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย นำท่านเดินทางสู่ “เมืองลูกาโน่” (เมืองสวยริมทะเลสาบ) ให้ท่านได้เดินช้อปปิ้งที่ “ฟอกซ์ทาวน์เอาท์เล็ท” เอาท์เล็ทยอดนิยมที่สุดในสวิสเซอร์แลนด์ FOXTOWN OUTLET พบกับสินค้าแบรนด์เนมชื่อดังหลากหลายกว่า160 ร้านค้าในราคาลดพิเศษ30%-70% มากกว่า 250 ยี่ห้อดังทั้งแบรนด์อิตาลี และนานาชาติ อาทิ Prada ,Gucci, D&G, Armani, Diesel, Bally,Calvin Klein, Boss, Gant, Prada, Ralph Lauren, Diesel, Esprit, Adidas, Nike, Replay, Superga, Samsonite, Fratelli Rossetti, Brums, La Perla, Fendi, Tod's, Hogan, Versace and Valentino. นอกจากนั้นยังมีบาร์ให้ท่านได้นั่งดื่ม ,จิบกาแฟ พร้อมร้านอาหารแบบยุโรปให้ท่านได้เลือกซื้อเลือกรับประทานมากมาย (มาสวิสฯห้ามพลาด!ช้อปปิ้งแบรนด์เนมแท้ๆถูกที่สุดในยุโรป) นำท่านออกเดินทางสู่เมือง “เบลินโซน่า” เมืองหลวงของมณฑลทิชิโน (Ticino Canton)
ค่ำ บริการอาหารมื้อค่ำ ณ ภัตตาคาร เมนูพิเศษ พิซซ่า และอาหารจานหลัก พร้อมของหวาน
พักที่ : BELINZONA SUD HOTEL หรือที่พักระดับใกล้เคียง
เช้า บริการอาหารมื้อเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรมที่พัก
นำท่านชมเมือง “เบลินโซน่า” Belinzona เมืองหลวงของมณฑลทิชิโน (Ticino Canton) ทางตอนใต้ของสวิตเซอร์แลนด์ เมืองที่ได้รับการขนานนามว่า "เมืองแห่งปราสาท" นำท่านขึ้นลิฟต์สู่ลานปราสาทจุดชมวิวที่สวยงามของตัวเมือง(ขอสงวนสิทธิ์เปลี่ยนเป็นเดินขึ้นกรณีลิฟต์ปิดทำการ) นำท่านขึ้นสู่ลานปราสาทเบลินโซน่า (Castelgrande) ซึ่งตั้งอยู่บนยอดภูเขาหินที่มองออกไปเห็นหุบเขาทิชิโน่ทั้งหมด พร้อมทิวทัศน์อันตระการตาของทั้งปราสาท คาสเตลกรานเด (Castlegrande) และปราสาทมอนเตเบลโล (Montebello) ซึ่งเป็นปราสาทที่เล็กที่สุดในสามปราสาท ชาวมิลานสร้างปราสาทหลังนี้เสร็จภายในเวลาเพียงหกเดือนในปี ค.ศ. 1479
เที่ยง บริการอาหารมื้อกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย นำท่านผ่านชมภูมิประเทศที่งดงามของเทือกเขาแอลป์ มีทั้งอุโมงค์, สะพาน, หุบเหว, สวิสแกรนด์แคนยอน และหุบเขาที่สูง 2,000 กว่าเมตร ตลอดเส้นทางท่านสามารถชมยอดเขาที่ปกคลุมด้วยธารน้ำแข็งสู่ “เมืองแทช” Tasch หมู่บ้านเล็กๆที่อยู่ตามเนินเขาและริมทะเลสาบ เดินทางถึงเมืองแทชซึ่งเป็นเมืองเล็กๆ ที่มีความสวยงาม
ค่ำ บริการอาหารมื้อค่ำ ณ ภัตตาคาร
พักที่ : MOUNTIME HOTEL TÄSCH / SCHLOSS HOTEL หรือที่พักระดับใกล้เคียง
เช้า บริการอาหารมื้อเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรมที่พัก
จากนั้นนำท่านเปลี่ยนการเดินทางโดยรถไฟสู่ “เมืองเซอร์แมท” เมืองตากอากาศที่สวยงามดุจสวรรค์บนดิน ตั้งอยู่บนความสูงกว่า 1,620 เมตร (5,350 ฟุต) เป็นเจ้าของ ยอดเขาแมทเธอร์ฮอร์น สัญลักษณ์ของสวิตเซอร์แลนด์ เป็นเมืองซึ่งสงวนสถานที่ไว้ให้มีแต่อากาศบริสุทธิ์ โดยห้ามรถที่ใช้แก๊สและน้ำมันเข้ามา นอกจากรถไฟฟ้า และรถม้าที่มีไว้บริการนักท่องเที่ยว นำท่านเดินสู่สถานีรถไฟกรอนเนอแกรต นั่งรถไฟไต่เขาสู่ “ยอดเขากรอนเนอแกรต” Gornergratt ซึ่งมีความสูงกว่า 3,000 เมตรเหนือระดับน้ำ ทะเล ชมความงามของยอดเขาแมทเทอร์ฮอร์น (จากจุดชมวิวกรอนเนอแกรต) ซึ่งมีความสูงกว่า 4,478 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ซึ่งท่านสามารถเห็นอยู่ แค่เอื้อมชื่นชมกับทิวทัศน์เหนือม่านเมฆ เพลิดเพลินกับทิวทัศน์อันงดงามของหิมะซึ่งปกคลุมยอดเขาตัดกับสีฟ้าเข้มของท้องฟ้า ยอดเขาทรงปิรามิดที่มีปลายคุ้มงอเหมือนตะขอแปลกตาจนราชาการ์ตูนวอล์ทดีสนีย์ นำไปเป็นแบบเครื่องเล่นบิ๊กธันเดอร์ Big Thunder ในสวนสนุกดีสนีย์แลนด์ ตลอดจนทิวทัศน์โดยรอบที่สวยงามยิ่งนัก (ทางบริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ไม่จอดแวะทะเลสาบริฟเฟลซีในช่วงฤดูหนาวและในวันที่ฝนและหิมะตกหนัก เนื่องจากอาจเกิดอันตรายในการเดินเข้าไปชมทะเลสาบ เส้นทางไปกลับประมาณ 2 กม. และจะเป็นโขดหินขรุขระ)
เที่ยง บริการอาหารมื้อกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย นำท่านออกเดินทางสู่ “เมืองมองเทรอซ์” Montreux เมืองพักผ่อนตากอากาศที่มีชื่อเสียงทั้งในฤดูร้อน และหนาวริมทะเลสาบเจนีวา ซึ่งได้รับสมญานามว่าเป็น “ไข่มุกแห่งริเวียร่าสวิสฯ” คฤหาสน์ และโรงแรมหรูของเมืองนี้เรียงรายริมถนนเรียบทะเลสาบที่ยาวถึง 7 กิโลเมตร แวะถ่ายภาพที่ระลึกกับ “ปราสาทชิลลอง” (ภายนอก) ซึ่งสร้างขึ้นโดยบัญชาของท่านเคาท์ ปีเตอร์ ออฟ ซาวอย หรือที่รู้จักกันแพร่หลายในสมญานามชาร์ลมาญน้อยในครึ่งหลังศตวรรษที่ 13 เป็นที่ประทับโปรดปรานของเคาน์และดยุคแห่งซาวอย สมควรแก่เวลานำท่านเดินทางสู่เมืองโลซานน์
ค่ำ บริการอาหารมื้อค่ำ ณ ภัตตาคารภัตตาคาร
พักที่ : NOVOTEL HOTEL หรือที่พักระดับใกล้เคียง
เช้า บริการอาหารมื้อเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรมที่พัก
จากนั้นนำท่านออกเดินทางสู่หมู่บ้านโคล ดู ปิยอง (Col du Pillon) นำท่านขึ้นกระเช้ากลาเซียร์ 3000 (Glacier3000) ไปที่จุด Scex Rouge ที่ระดับความสูง 2,971เมตร เดินขึ้นไปยังจุดชมวิวบนยอดเขาสูงระดับ 3,000 เมตร ที่สามารถเห็นยอดเขามองบลังค์ในประเทศฝรั่งเศส และยอดเขาจุงเฟรา นำท่านเดินข้ามสะพานแขวนที่เชื่อมระหว่างสองยอดเขา ที่ชื่อว่า Peak walk by Tissot เป็นประสบการณ์ความหวาดเสียวตื่นเต้นที่น่าประทับใจ จากนั้นอิสระทุกท่านกับกิจกรรมสนุกสนานต่างๆบนยอดเขา อาทิ การเดินลุยหิมะชมธารน้ำแข็ง (กลาเซียร์ วอล์ค Glacier walk) การนั่งกระเช้าแบบเปิดเหมือนที่นักสกีนั่งไปเล่นสกี (Ice Express) เล่นไถลบนลานหิมะ (Fun park) ซึ่งทั้งหมดดังกล่าวรวมอยู่ในตั๋วแล้ว เพลิดเพลินกับกิจกรรมต่างๆอย่างจุใจ ได้เวลาสมควรนำท่านลงสู่สถานีด้านล่าง
เที่ยง บริการอาหารมื้อกลางวัน ณ ภัตตาคาร เมนูพิเศษ ! "ฟองดู" (Fondue) ชีส และอาหารจานหลัก พร้อมของหวาน
บ่าย นำท่านเดินทางสู่หมู่บ้านกรูแยร์(Gruyere) หมู่บ้านน่ารักมีปราสาทตั้งอยู่บนเนินเขากลางเมือง นำท่านเข้าสู่โรงงานของฟาร์มผลิตชีส ชีสกรูแยร์ เป็นชีสสวิสฯ กลิ่นหอม เนื้อแข็งมีสีเหลืองมีต้นกำเนิดในบริเวณ Fribourg, Vaud, Neuchâtel, Jura และ Berne แต่หมู่บ้านกรูแยร์นี้ผลิตออกมามีรสชาติดีที่สุดจึงได้รับการตั้งชื่อตามเมืองกรูแยร์ นำท่านชมขั้นตอนการผลิตและการเก็บรักษารวมถึงการแปรรูปลิตภัณฑ์ ให้ท่านเลือกซื้อกลับบ้านเป็นของฝาก(นิยมใช้ทำฟองดูชีส) นำท่านเดินทางสู่ “กรุงเบิร์น” นครหลวงอันเก่าแก่ของสวิตเซอร์แลนด์ เมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงสวยงามเป็นอย่างยิ่งจนได้รับการอนุรักษ์ และประกาศให้เป็น “มรดกโลกจากองค์การยูเนสโก้” (Unesco) ชม “เบเร็นกราเบ็นหรือบ่อหมี” สัญลักษณ์ของเมือง เนื่องจากหมีเป็นสัตว์ประจำเมือง นำท่านเดินเข้าสู่ย่าน“มาร์คกาสเซ” ย่านเมืองเก่าซึ่งปัจจุบัน เต็มไปด้วยร้านดอกไม้และร้านบูทีคเป็นเขตที่ปลอดมลพิษ ไม่ให้รถยนต์วิ่งผ่าน จึงเหมาะกับการเดินเที่ยว และเป็นเมืองเดียวในสวิสที่ทางเดินช้อปปิ้งมีหลังคาคลุมแถมบางร้านยังอยู่ชั้นใต้ดินอีกด้วย นำชมอาคารเก่า อายุ 200-300 ปี ชมถนนจุงเคอร์นกาสเซ ถนนที่มีระดับสูงสุดๆ ของเมืองนี้เข้าสู่ “ถนนครัมกาสเซ” เต็มไปด้วยร้านภาพวาด และร้านขายของเก่าในอาคารโบราณ ชม “นาฬิกาไซ้ท์ กล็อคเค่น” อายุกว่า 800 ปี ที่มีโชว์ให้ดูทุกๆ ชั่วโมงที่นาฬิกาตีบอกเวลา ชมมหาวิหารเซนต์วินเซนต์รัทฮาวน์ และกรุงเบิร์นยังเป็นเมืองที่มีน้ำพุมากที่สุดเมืองหนึ่งในยุโรป
ค่ำ บริการอาหารมื้อค่ำ ณ ภัตตาคาร อาหารไทย รสเลิศ จากฝีมือพ่อครัวคนไทย
พักที่ : HOLIDAY INN WESTSIDE HOTEL / ALLEGRO HOTEL หรือที่พักระดับใกล้เคียง
เช้า บริการอาหารมื้อเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรมที่พัก
จากนั้นนำท่านออกเดินทางสู่เมืองบาเซิล(Basel) เมืองบาเซิล เสมือนศูนย์รวมวัฒนธรรมโบราณและสมัยใหม่ของสวิตเซอร์แลนด์ให้เข้ากันได้ในพื้นที่เดียวกันได้อย่างน่าประหลาดใจ ที่นี่เป็นเมืองที่มีพิพิธภัณฑ์ที่หลากหลายมากที่สุด จนอาจเรียกได้ว่าเป็นเมกกะแห่งความรู้วัฒนธรรมแห่งหนึ่งของยุโรป นำท่านเดินชมเมืองเก่า ชมอาคารโบราณที่แทรกการแต่งแบบใหม่ไว้สลับกันไปกับอาคารแบบโมเดิร์น แสดงให้เห็นลูกเล่นของสถาปนิกในบาเซิล ด้วยที่นี่มีชื่อเสียงอีกด้านของความเป็นแถวหน้าในสถาปัตยกรรมทุกรูปแบบ นำท่านชมอาคารศาลากลางเมือง (Basel Town Hall) และโบสถ์บาเซิล (Basel Minster) ชมทัศนียภาพและความงามของแม่น้ำไรน์ที่ไหลผ่านเมืองเก็บภาพโบสถ์จากสมัยยุโรปยุคกลาง, บ้านทรงโบราณที่ยังคงมีผู้อาศัยใช้งาน, และน้ำพุที่ตกแต่งด้วยการเพ้นท์สีสันใหม่ให้สดใส สิ่งที่ทำให้บริเวณเมืองเก่าของบาเซิลน่าสนใจกว่าที่อื่นๆ เก็บภาพศาลาว่าการเมืองบาเซิล (Basel City Hall) อาคารสีแดงสด อาคารศาลาว่าการเมืองที่ตั้งอยู่ในใจกลางจัตุรัสเมืองเก่า เด่นสะดุดตาด้วยสีแดงสดทั้งอาคาร ตกแต่งด้วยภาพวาดเขียนสีเป็นลวดลายสดใสสวยงาม เป็นอาคารสไตล์เบอร์กันดีโกธิคสร้างในราว ฟ ปี 1504-1521 มีบางส่วนต่อเติมเพิ่มบ้าง หากได้เข้าไปชมลานรับแขกภายในอาคาร จะเสมือนได้เดินย้อนยุคไปในยุโรปยุคโบราณเลยทีเดียว เก็บภาพโบสถ์ประจำเมืองบาเซิล (Basel Minster) ตั้งอยู่บนเนินที่สูง ทั้งยังมีหอคอยที่สูงตระหง่านเป็นคู่กัน โบสถ์แห่งนี้ได้กลายเป็นสัญลักษณ์ประจำเมืองบาเซิล นอกจากหอคอยคู่ทรงแหลมนี้แล้ว ยังเด่นด้วยหลังคาโบสถ์สีสดประดับไว้เป็นลายสี่เหลี่ยมข้าวหลามตัด / อิสระทุกท่านตามอัธยาศัย
เที่ยง บริการอาหารมื้อกลางวัน ณ ภัตตาคาร พื้นเมืองเมนูพิเศษ ปลาเทราส์อบ เสริฟทั้งตัว พร้อมเครื่องดื่ม
บ่าย จากนั้นเดินทางเข้าสู่ “เมืองซาฟเฮาส์เซ่น” Schaffhausen เมืองชายแดนเยอรมัน-สวิสฯ ชมความสวยงามของ “น้ำตกไรน์” ซึ่งเกิดจากแม่น้ำไรน์สายน้ำนานาชาติที่สำคัญที่สุดในยุโรปแม่น้ำแห่งนี้เกิดขึ้นจากการละลายของหิมะจากเทือกเขาแอลป์เริ่มจากเป็นลำธารเล็กๆ ผ่านลิคเท่ นสไตน์เข้าสู่ทะเลสาบคอนสแตนท์ที่กั้นพรหมแดนระหว่างสวิตเซอร์แลนด์กับเยอรมันนี ส่วนที่ล้นไหลออกจากทะเลสาบคอนสแตนท์ก่อกำเนิดแม่น้ำไรน์สายใหญ่ ไหลผ่านหน้าผาสูงชันที่เมืองซาฟเฮาส์เซ่นเกิดเป็น “น้ำตกไรน์ที่สวยงามที่สุดในยุโรปกลาง” นำท่านออกเดินทาง “เมืองทิทิเช่” ตั้งอยู่ในพื้นที่กลางป่าดำ หรือ BLACK FOREST ปกคลุมไปด้วยป่าสนยืนต้นนับหมื่นไร่ของประเทศเยอรมนี โดยมี ทะเลสาบทิทิเช่ ที่โอบล้อมไปด้วยขุนเขา และทิวป่าสนที่ยืนต้นปกคลุมไปทั่ว ทิทิเช่ ยังเป็นต้นกำเนิดของ "นาฬิกากุ๊กกู" ที่มีชื่อเสียง...นำท่านชมทะเลสาบทิทิเซ่ “LAKE TITISEE” สัมผัสกับธรรมชาติอย่างใกล้ชิด ชม ธรรมชาติที่สวยงามริมทะเลสาบและหมู่บ้านทิทิเซ่ที่เป็นแหล่งพักผ่อนตากอากาศชื่อดังของเยอรมนีจากนั้นนำท่านชมนาฬิกากุ๊กกู สินค้าพื้นเมือง หรือเพลิดเพลินกับการเดินเลือกซื้อ นาฬิกากุ๊กกู และงานไม้แกะสลัก ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของเยอรมันตอนใต้ที่เสมือนเป็นสัญลักษณ์ของชาวป่าดำ
ค่ำ บริการอาหารมื้อค่ำ ณ ภัตตาคาร เมนูพิเศษ!! ขาหมูเยอรมันทอดเสิร์ฟพร้อมเบียร์เยอรมันรสเลิศ
พักที่ : Hotel Hofgut Sternen หรือที่พักระดับใกล้เคียง
เช้า บริการอาหารมื้อเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรมที่พัก
นำท่านออกเดินทางสู่เมือง “ไฟร์บูร์ก” หรือ “ไฟรบูร์ก อิม ไบรส์เกา” (Freiburg im Breisgau) “เมืองหลวงของแบล็คฟอเรสต์” ตั้งอยู่ในสามเหลี่ยมชายแดนติดกับฝรั่งเศสและสวิตเซอร์แลนด์ ริมฝั่งตะวันตกของป่าดำ ทำให้เป็นเมืองใหญ่ทางใต้สุดในเยอรมนี ก่อตั้งขึ้นในปี 1120 เมืองเก่าแก่ไฟรบูร์กมีเอกลักษณ์เฉพาะด้วยตรอกซอกซอยและถนนเล็กๆ มากมายที่คนเดินถนนสามารถเดินเล่นได้อย่างสบายๆ คาเฟ่ริมถนนมากมาย ไฟรบูร์กยังเป็นที่รู้จักในนาม "ทัสคานีแห่งเยอรมนี" เนื่องจากตั้งอยู่ในทำเลที่สมบูรณ์ แบบระหว่างป่าดำและหุบเขาแม่น้ำไรน์ตอนบน อีกทั้งเป็นเมืองแห่งไวน์อีกด้วย จากนั้นนั้นนำท่านออกเดินทางสู่เมือง “กอลมาร์” (Colmar) ชมเมืองกอลมาร์เมืองที่ได้รับการขนานนามว่าเป็น “เมืองหลวงแห่งไวน์แห่งอาลซัส” (Capitale des Vins d’Alsace) ชมเมืองที่มีชื่อเสียงในการอนุรักษ์เมืองให้ยังคงเป็นเมืองที่ มีลักษณะสถาปัตยกรรมและบรรยกาศของเมืองโบราณ โดยเฉพาะในตัวเมืองเก่าที่เรียงรายไปด้วยเรือนไม้โบราณ ร้านค้าโบราณ โบสถ์ พิพิธภัณฑ์ คริสต์ศาสนสถาน และร้านค้าและที่อยู่ อาศัยที่คงสภาพเหมือนเมืองในยุคกลาง
เที่ยง บริการอาหารมื้อกลางวัน ณ ภัตตาคาร
นำท่านออกเดินทางสู่ เมืองไฮเดลเบิร์ก “Heidelberg” เมืองเก่าแก่สวยงามตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเนคการ์ นำท่านชมเมืองไฮเดลเบิร์ก เข้าสู่ จตุรัสมาร์กพลัทซ์ “Marktplatz” จัตุรัสแห่งนี้จะเป็นที่ตั้งของโบสถ์ Heiliggeistkirche หรือโบสถ์วิญญาณศักดิ์สิทธิ์ ที่สร้างในรูปแบบสถาปัตยกรรมแบบโกธิกในยุคแรก และเมื่อโบสถ์เสียหายจากการถูกไฟไหม้ในปี 1709 ช่วงสงครามฝรั่งเศสจึงมีการสร้างขึ้นใหม่จึงถูกสร้างขึ้นมาในรูปแบบสถาปัตยกรรมแบบบารอกแทน จากนั้นนำท่านเดินผ่านซุ้มประตูเมืองเก่าสีขาวเข้าสู่ “สะพานเก่า” Alte Brucke สะพานหินทอดข้ามแม่น้ำเน็คคาร์ ชมวิวของปราสาทไฮเดลเบิร์ก “Heidelberg Castle” ซึ่งตั้งอยู่บนเนินเขา อายุมากกว่า 600 ปี ในอดีตเป็นป้อมปราการและต่อมาได้ถูกเปลี่ยนแปลงให้เป็นปราสาทสร้างขึ้นในช่วงปี ค.ศ.1398 ด้วยรูปศิลปะสไตล์โกธิคและเรอเนสซองส์ที่ผสมผสานกันอย่างลงตัว นำท่านออกเดินทางสู่เมืองแฟรงค์เฟิร์ต
ค่ำ บริการอาหารมื้อค่ำ ณ ภัตตาคาร
พักที่ : DORMERO Hotel Frankfurt หรือที่พักระดับใกล้เคียง
เช้า บริการอาหารมื้อเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรมที่พัก
นำท่านออกเดินทางสู่เมือง “บ็อบพาร์ด” เมืองแสนสวยริมฝั่งแม่น้ำไรน์ซึ่งนอกจากมีทัศนียภาพที่สวยงามอันเปี่ยมสเนห์แล้วบ๊อบพาร์ดยังมีชื่อเสียงในด้านวัฒนธรรมประจำท้องถิ่น มีเวลาให้ท่านได้ถ่ายภาพอันสวยงามของแม่น้ำไรน์ และซื้อของที่ระลึกพื้นเมือง อาทิ มีดเยอรมนี, ที่เปิดไวน์, ของที่ระลึกน่ารักๆประดับบ้าน ฯลฯ จากนั้นนำท่านออกเดินทางสู่ท่าเรือ“นำท่านล่องเรือนำเที่ยวทันสมัยชมความสวยงามสองฝากฝั่งแม่น้ำไรน์” ที่มีเรื่องราวของปราสาทต่างๆเก่าแก่มากมายของมหาเศรษฐีในอดีตจากยุคโรมันและชาวเยอรมันเผ่าต่างๆที่ยังคงมีมนต์เสน่ห์อย่างไม่เสื่อมคลาย แม่น้ำแห่งนี้ยังก่อให้เกิดเรื่องราว ,ตำนาน และบทเพลงต่างๆที่ทำให้ผู้คนหลงใหล เรือจะนำท่านผ่านหน้าผา “ลอเรไล” อันเป็นตำนานของหญิงสาวที่คร่าชีวิตผู้คนที่เดินทางโดยเรือผ่านแม่น้ำสายนี้จนเข้าสู่ “เขตเซนต์กอร์” เมืองเล็กๆ ที่มีชื่อเสียงเพราะบทกวีของ Heinrich Hene เป็นเมืองที่ได้รับการดูแลรักษาอย่างดีเยี่ยม ยังคงให้ภาพประทับใจเหมือนที่เคยเป็นมาใน ค.ศ.ที่ 19 เมืองสำคัญสำหรับจัดงานเทศกาลการจุดพลุประจำปีริมฝั่งแม่น้ำไรน์ และยังลือชื่อด้านเหล้าองุ่นคุณภาพสูงของเยอรมัน ให้ท่านได้แพลิดเพลินกับวิวทิวทัศน์ที่แสนสวยงามบนเรือจนกระทั่งเรือเทียบท่า
เที่ยง บริการอาหารมื้อกลางวัน ณ ภัตตาคาร เมนูพิเศษ!! ขาหมูเยอรมันตุ๋นสไตล์เยอรมันรสเลิศ
บ่าย นำท่านชมเมืองแฟรงค์เฟิร์ต เป็นเมืองที่มีประวัติต่อเนื่องอันยาวหลายศตวรรษเคยเป็นสถานที่ซึ่งกษัตริย์และจักรพรรดิหลายพระองค์เคยใช้ประกอบพิธีราชาภิเษก ผ่านชมสถานีรถไฟแฟรงค์เฟิร์ต ซึ่งถือได้ว่าเป็นสถานีรถไฟต้นแบบของสถานีรถไฟหัวลำโพงครั้งเมื่อคราวเสด็จประพาสยุโรปของรัชกาลที่ 5 ชมจัตุรัสโรเมอร์ ซึ่งเป็นจัตุรัสที่เก่าแก่ที่สุดในเมือง ด้านข้างก็คือ ศาลาว่าการเมือง ซึ่งอยู่ทางด้านตะวันตกเฉียงเหนือของจัตุรัสโรเมอร์ มีเวลาให้ท่านช้อปปิ้งสินค้าแบรนด์เนมตามอัธยาศัย
ได้เวลาสมควรนำท่านออกเดินทางสู่สนามบิน...นำท่านเช็คอินและทำ TAX REFUNED
20.40 ออกเดินทางสู่กรุงเทพฯโดยสายการบินไทยเที่ยวบินที่ TG923
12.30 เดินทางถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ / โดยสวัสดิภาพพร้อมความประทับใจ
หมายเหตุ
บริษัทฯ จะทำการยื่นวีซ่าของท่านก็ต่อเมื่อในคณะมีผู้สำรองที่นั่งครบ 25 ท่าน และได้รับคิวการตอบรับจากทางสถานทูต เนื่องจากบริษัทฯ จะต้องใช้เอกสารต่างๆที่เป็นกรุ๊ปในการยื่นวีซ่า อาทิ ตั๋วเครี่องบิน ห้องพักที่คอนเฟิร์มมาจากทางยุโรป ประกันการเดินทาง ฯลฯ ทางท่านจะต้องรอให้คณะครบ 25 ท่าน จึงจะสามารถยื่นวีซ่าให้กับทางท่านได้อย่างถูกต้อง
หากในช่วงที่ท่านเดินทางคิววีซ่ากรุ๊ปในการยื่นวีซ่าเต็ม ทางบริษัทต้องขอสงวนสิทธิ์ในการยื่นวีซ่าเดี่ยว ซึ่งทางท่านจะต้องเดินทางมายื่นวีซ่าด้วยตัวเอง ตามวัน และเวลานัดหมายจากทางสถานทูต โดยมีเจ้าหน้าที่ของบริษัทคอยดูแล และอำนวยความสะดวก
เอกสารต่างๆที่ใช้ในการยื่นวีซ่าท่องเที่ยวทวีปยุโรป ทางสถานทูตเป็นผู้กำหนดออกมา มิใช่บริษัททัวร์เป็นผู้กำหนด ท่านที่มีความประสงค์จะยื่นวีซ่าท่องเที่ยวทวีปยุโรป กรุณาจัดเตรียมเอกสารให้ถูกต้อง และครบถ้วนตามที่สถานทูตต้องการ เพราะจะมีผลต่อการพิจารณาวีซ่าของท่าน บริษัททัวร์เป็นแต่เพียงตัวกลาง และอำนวยความสะดวกในการยื่นวีซ่าเท่านั้น มิได้เป็นผู้พิจารณาว่าวีซ่าให้กับทางท่าน
กรณีวีซ่าที่ท่านยื่นไม่ผ่านการพิจารณา และคณะสามารถออกเดินทางได้ ท่านจะต้องเสียค่าใช้จ่ายจริงที่เกิดขึ้นดังต่อไปนี้
- ค่าธรรมเนียมการยื่นวีซ่าและค่าดำเนินการ ทางสถานทูตจะไม่คืนค่าธรรมเนียมใดๆทั้งสิ้นแม้ว่าจะผ่านหรือไม่ผ่านการพิจารณา
- ค่ามัดจำตั๋วเครื่องบิน หรือตั๋วเครื่องบินที่ออกมาจริง ณ วันยื่นวีซ่า ซึ่งตั๋วเป็นเอกสารที่สำคัญในการยื่นวีซ่า หากท่านไม่ผ่านการพิจารณา ตั๋วเครื่องบินถ้าออกตั๋วมาแล้วจะต้องทำการ REFUND โดยจะมีค่าธรรมเนียมที่ท่านต้องถูกหักบางส่วน และส่วนที่เหลือจะคืนให้ท่านภายใน 45-60 วัน (ตามกฎของแต่ละสายการบิน) ถ้ายังไม่ออกตั๋วท่านจะเสียแต่ค่ามัดจำตั๋วตามจริงเท่านั้น
- ค่าห้องพักในทวีปยุโรป ถ้าคณะออกเดินทางได้ และท่านไม่ผ่านการพิจารณาวีซ่า ตามกฎท่านจะต้องโดนค่ามัดจำห้องใน 2 คืนแรกของการเดินทางหากท่านไม่ปรากฏตัวตามวันที่เข้าพัก ทางโรงแรมจะต้องยึดค่าห้อง 100% ในทันที ทางบริษัทจะแจ้งให้ท่านทราบ และมีเอกสารชี้แจงให้ท่านเข้าใจ
หากท่านผ่านการพิจารณาวีซ่า แล้วยกเลิกการเดินทางทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการยึดค่าใช้จ่ายทั้งหมด 100%
ทางบริษัทเริ่มต้น และจบ การบริการ ที่สนามบินสุวรรณภูมิ กรณีท่านเดินทางมาจากต่างจังหวัด หรือต่างประเทศ และจะสำรองตั๋วเครื่องบิน หรือพาหนะอย่างหนึ่งอย่างใดที่ใช้ในการเดินทางมาสนามบิน ทางบริษัทจะไม่รับผิดชอบค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ เพราะเป็นค่าใช้จ่ายที่นอกเหนือจากโปรแกรมการเดินทางของบริษัท ฉะนั้นท่านควรจะให้กรุ๊ป FINAL 100% ก่อนที่จะสำรองยานพาหนะ
กรณีท่านที่ประสงค์พักแบบห้องสามเตียง(Triple Room) หากทางโรงแรมที่พักไม่สามารถจัดห้องพักแบบสามเตียงได้ อาจต้องเป็นเตียงเสริมแทน หรือ อาจต้องแยกเป็นห้องสองเตียง 1 ห้องและห้องเตียงเดียว 1 ห้อง ซึ่งมีค่าใช้จ่ายสำหรับค่าห้องเดียวทั้งนี้ทางลูกค้าต้องเป็นผู้จ่ายค่าห้องเดียวเอง(ทางบริษัทฯ ขอแนะนำให้พักสองห้อง)
รูปภาพใช้เพื่อการโฆษณาเท่านั้น
10 LADKRABANG42 LADKRSBANG BANGKOK 10520 THAILAND