16.30 น. พร้อมกันที่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ชั้น 4 ประตู 10 ผู้โดยสารขาออก เจ้าหน้าที่ของบริษัทฯ คอยให้การต้อนรับ และอำนวยความสะดวกในการเช็คอิน ก่อนโหลดกระเป๋าที่ เคาน์เตอร์ สายการบินเวียดนาม แอร์ไลน์
19.35 น. นำท่านเดินทางสู่ ประเทศญี่ปุ่น โดยสายการบินเวียดนาม แอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ VN606
21.25 น. เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติเตินเซินเญิ้ต นครโฮจิมินห์ ประเทศเวียดนาม เพื่อแวะเปลี่ยนเครื่อง
**สายการบินมีบริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง**(ราคาโปรโมชั่นไม่มีอาหารบนเครื่อง)
00.10 น. เหินฟ้าสู่ เมืองโอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น โดยสายการบินเวียดนาม แอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ VN 326
07.00 น. เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติคันไซ โอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น นำท่านผ่านขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร เรียบร้อยแล้ว (เวลาที่ญี่ปุ่น เร็วกว่าเมืองไทย 2 ชั่วโมง กรุณาปรับนาฬิกาของท่านเพื่อความสะดวกในการนัดหมายเวลา) ***สำคัญมาก!! ประเทศญี่ปุ่นไม่อนุญาตให้นำอาหารสด จำพวก เนื้อสัตว์ พืช ผัก ผลไม้ เข้าประเทศ หากฝ่าฝืนมีโทษปรับและจับ
เดินทางสู่ เมืองนารา (Nara) เป็นเมืองหลวงของญี่ปุ่นตั้งแต่ช่วงเริ่มแรกของราชวงศ์ยามาโต้ (300-600) เมืองหลวงเก่าแก่แห่งนี้มีวัดและศาลเจ้ามากมายซึ่งบางแห่งได้รับการจดทะเบียนเป็นมรกดโลก เพื่อนำท่านสู่ วัดโทไดจิ (Todaiji) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.40 ชั่วโมง) วัดหลวงพ่อโตแห่งเมืองนารา หรือ ไดบุทสึ (Daibutsu of Nara) เป็นหนึ่งในวัดที่มีชื่อเสียงมากที่สุดและมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ของประเทศญี่ปุ่น ถูกสร้างขึ้นในปี 752 เป็นเหมือนศูนย์กลางของวัดทั้งหมดในประเทศและมีอิทธิพลเป็นอย่างมากในยุคนั้น เพื่อลดบทบาทและอิทธิพลของวัดต่อรัฐบาลลง จึงได้มีการย้ายเมืองหลวงจากนาราไปยังนากาโอกะในปี 784 ภายในเป็นที่ประดิษฐานของหลวงพ่อโตหรือ ไดบุทสึเดน ซึ่งมีขนาดใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น มีความสูงถึง 15 เมตร อีกจุดที่น่าสนใจและเป็นที่นิยมอย่างมากก็คือ เสาไม้ยักษ์ ซึ่งฐานขนาดรอบเสานี้มีขนาดเท่ากันรูจมูกของหลวงพ่อโต และด้านล่างของเสาจะเป็นช่องขนาดไม่ใหญ่มาก มีความเชื่อว่าหากใครสามารถรอดผ่านช่องนี้ไปได้ก็จะสามารถตรัสรู้ได้ในชาติหน้า หลังจากนั้นเดินทางกลับสู่เมืองโอซาก้า
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (1)
เดินทางสู่ ปราสาทโอซาก้า (Osaka Castle) (ด้านนอก) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.20 ชั่วโมง) เป็นหนึ่งในแลนด์มาร์คสําคัญของเมืองโอซาก้า หอคอยปราสาทจะมีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 8 ชั้น ตัวปราสาทถูกล้อมรอบด้วยกำแพงหินคอนกรีต, คูนํ้า และสวนนิชิโนมารุซึ่งอยู่ทางป้อมตะวักตก ความงดงามของปราสาท ถือว่าเป็นสัญลักษณ์ของเมืองโอซาก้า ที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกต่างให้ความสนใจที่จะมาเยือนและชมตลอดทั้งปี
จากนั้นอิสระช้อปปิ้ง ย่านชินไซบาชิ (Shinsaibashi) (ใช้ระยะเวลาในการเดินทางประมาณ 30 นาที) บริเวณแหล่งช้อปปิ้งแห่งนี้มีความยาวประมาณ 600 เมตร เต็มไปด้วยร้านค้าปลีก ร้านแฟรนไชส์ ร้านเครื่องสําอางค์ ร้านรองเท้า กระเป๋านาฬิกา ร้านกาแฟ ร้านอาหาร ร้านขนม ร้านเสื้อผ้าสตรีทแบรนด์ทั้งญี่ปุ่นและต่างประเทศ เช่น Zara H&M Beans ABC Mart เป็นต้น เรียกว่ามีทุกอย่างที่ต้องการรวมกันอยู่บริเวณนี้ ใกล้กันท่านสามารถเดินไปยัง ย่านโดทงโบริ (Dotonbori) ย่านบันเทิงยามคํ่าคืนตลอดแนวถนนเลียบคลองโดทงโบริ จากสะพานโดทงโบริบาชิไปจนถึงสะพานนิปปนบาชิไฮไลท์!!! ใครๆ ก็เช็คอิน ถ่ายภาพคู่ ป้ายกูลิโกะแมน หรือ ป้ายโดทงโบริกูลิโกะ (Dotonbori Glico Sign) เป็นป้ายไฟนีออนรูปนักกรีฑากำลังวิ่งอยู่บนลู่วิ่ง ซึ่งถูกติดตั้งมาตั้งแต่ ปี ค.ศ.1935 นอกจากนี้ยังมีอีกหนึ่งสัญลักษณ์สถานที่นัดพบกันหลง นั่นก็คือ ร้านปูคานิโดรากุ (Kani Doraku) ซึ่งมีปูยักษ์ขยับแขนและลูกตาได้อีกด้วย และห้ามพลาดสำหรับ ทาโกยากิ อาหารท้องถิ่นของชาวโอซาก้า ที่มาถึงถิ่นแล้วต้องลอง Original Taste รับรองไม่ผิดหวังแน่นอน
เย็น อิสระรับประทานอาหารเย็นตามอัธยาศัย
จากนั้นนำท่านกลับสู่โรงแรมที่พัก (ใช้ระยะเวลาในการเดินทางประมาณ 10 นาที)
พักที่ HOTEL B SUITES NAMBA, OSAKA หรือเทียบเท่าระดับเดียวกัน
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (2)
เดินทางสู่ เมืองเกียวโต (Kyoto) เมืองหลวงเก่าของประเทศญี่ปุ่น มีชื่อเสียงระดับโลกในเรื่องของวัฒนธรรมที่ประณีต ศิลปะแบบญี่ปุ่นอย่างแท้จริง มีมนต์เสน่ห์แบบชนบทญี่ปุ่น ปัจจุบันเป็นเมืองท่องเที่ยวที่เป็นนิยมของคนทั่วโลก (ใช้ระยะเวลาในการเดินทางประมาณ 1.30 ชั่วโมง)
นำท่านสู่ วัดคิโยมิสึเดระ (Kiyomizu-dera) แปลเป็นภาษาไทยว่า วัดน้าใส เป็นวัดที่มีชื่อเสียงที่สุดในเมืองเกียวโต สร้างขึ้นมาก่อนที่เกียวโตจะเป็นเมืองหลวงของญี่ปุ่น เมื่อปี ค.ศ.778 นักท่องเที่ยวนิยมเดินทางมาเพื่อสักการะและขอพรจากองค์พระโพธิสัตว์เจ้าแม่กวนอิม 11 พักตร์ 1000 กร ซึ่งเป็นพระประธานของวัด นอกจากนี้ที่นี่ยังเป็นที่ประดิษฐานของเทพเอบิสึผู้เป็นเทพเจ้าแห่งความร่ารวยมั่งคั่ง ตัววัดก่อสร้างด้วยไม้เกือบทั้งหมดแต่ที่น่าสนใจ ได้แก่ เสาที่ค้ายันระเบียงวัดขนาดใหญ่ เสาดังกล่าวประกอบไปด้วยเสาไม้ขนาดใหญ่จานวนร้อยกว่าต้น สร้างขึ้นด้วยไม้ขนาดใหญ่สูงจากพื้น 12 เมตร โดยไม่ใช้ตะปูแม้แต่ตัวเดียว อาคารไม้หลังนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมในปี 1994 จากองค์การยูเนสโกในฐานะส่วนหนึ่งของอนุสาวรีย์ทางประวัติศาสตร์เมืองเกียวโต
จากนั้น นำท่านเดินเท้า เพื่อชม ย่านฮิกาชิยาม่า (Higashiyama) ซึ่งเป็นแหล่งรวมสถานที่ ท่องเที่ยวที่สำคัญน่าชมของเกียวโตให้บรรยากาศแบบดั้งเดิม แลนด์มาร์คที่โดดเด่นของย่านนี้ เจดีย์ยาซากะ (Yasaka Pagoda) ซึ่งเป็นเจดีย์ 5 ชั้น สูง 46 เมตรที่สามารถมองเห็นได้เกือบจากทุกมุมของย่านนี้ แลนด์มาร์คสวยๆ อีกแห่งที่พลาดการถ่ายรูปไม่ได้ คือ เนินนิเนนซากะ (Ninenzaka) และเนินซันเนนซากะ (Sannenzaka) ซึ่งเป็นเนินบันไดที่ปูด้วยแผ่นหินตั้งอยู่ท่ามกลางบ้านไม้
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (3)
นำท่านสู่ วัดคินคะคุจิ (Kinkakuji) (ใช้ระยะเวลาในการเดินทางประมาณ 40 นาที) หรือ วัดทอง หรือ วัดอิคคิวซัง ที่คนไทยนิยมเรียก เดิมสร้างขึ้นเพื่อใช้เป็นบ้านพักของท่านโชกุนอาชิกากะ โยชิมิสุและท่านมีความตั้งใจยกบ้านพักแห่งนี้ให้เป็นวัดนิกายเซนภายหลังจากที่ท่านเสียชีวิต คนไทยนิยมเรียกกันว่า วัดทอง เนื่องจากที่วัดนี้จะมีอาคารหลักเป็นสีทองเกือบทั้งหลังตั้งโดดเด่นอยู่กลางนํ้า ทำให้เกิดเป็นเงาสะท้อนกับพื้นนํ้าเบื้องหน้า จนเกิดเป็นภาพที่สวยงามเป็นอีกสัญลักษณ์หนึ่งของเมืองเกียวโต
นำท่านสู่ เมืองนาโกย่า (Nagoya) (ใช้ระยะเวลาในการเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง)เป็นตัวเมืองของจังหวัดไอจิ มีประชากรอาศัยอยู่มากกว่า 2 ล้านคน เป็นเมืองศูนย์รวมการค้าและการคมนาคมที่สําคัญแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น
ชม งานประดับไฟฤดูหนาว ณ หมู่บ้านนาบานะ โนะ ซาโตะ (Nabana no Sato Winter Illumination) เป็นธีมพาร์คสวนดอกไม้ ที่มีทุ่งดอกไม้ให้ชมตลอดทั้ง 4 ฤดูกาล สามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี ไฮไลท์!!! การประดับไฟขนาดใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น จะมีในช่วงฤดูใบไม้ร่วงตลอดจนถึงปลายฤดูหนาว (ตุลาคม-มีนาคม) จะได้รับความนิยมมากเป็นพิเศษ เนื่องจากมี การแสดงไฟในหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น อุโมงค์แสงไฟ (Tunnel of Light) หรือ การประดับไฟในน้ำ (Water Illumination) อิสระให้ท่านได้เพลิดเพลินกับอลังการงานประดับไฟที่ไม่ว่าจะหันไปทางไหนก็มีมุมให้เก็บภาพประทับใจกลับไปอย่างมากมาย
เย็น อิสระรับประทานอาหารเย็นตามอัธยาศัย
พักที่ HOTEL THE B NAGOYA หรือเทียบเท่าระดับเดียวกัน
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (4)
จากนั้นเดินทางสู่ จังหวัดชิซูโอกะ (Shizuoka) (ใช้ระยะเวลาในการเดินทางประมาณ 2.40 ชั่วโมง) ตั้งอยู่ในภูมิภาคชูบุ บนเกาะฮนชู เป็นที่ตั้งของภูเขาฟูจิบางส่วน เนื่องจากมีส่วนที่ติดทะเลมากทำให้มีอาหารทะเลสดอร่อย เช่น หอยนางรม กุ้ง ปลามากุโระ ปลาไหล และมีชื่อเสียงของการปลูกวาซาบิ และชาเขียว ถือเป็นแหล่งเพาะปลูกชาเขียวที่ดีที่สุดในญี่ปุ่น อีกทั้งยังมีเมืองท่องเที่ยวยอดนิยมอีกมากมาย เพื่อนำท่านสู่ นิฮงไดระ ยูเมะ เทอร์เรซ (Nihondaira Yume Terrace) เป็นจุดชมวิวที่ตั้งอยู่บน ที่ราบสูงนิฮงไดระ จังหวัดชิซูโอกะ ไม้สำหรับอาคารนี้ทำมาจากไม้ของจังหวัดชิซูโอกะ ออกแบบโดย Kengo Kuma สถาปนิกชาวญี่ปุ่นที่มีชื่อเสียงในญี่ปุ่น โดยมีรูปทรงแปดเหลี่ยมซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจากวัดโฮริวจิ จังหวัดนารา เป็นหนึ่งในจุดชมวิวที่เหมือนพาคุณเข้าไปในโลกแห่งความฝัน เป็นอาคาร 3 ชั้น สไตล์โมเดิร์น มีระเบียงแปดเหลี่ยมพร้อมทิวทัศน์มุมกว้างสำหรับชมวิวธรรมชาติและบรรยากาศของเมืองโดยไร้สิ่งกีดขวางพร้อมภูเขาไฟฟูจิได้แบบ 360 องศา มีสะพานที่เชื่อมระหว่างระเบียงกับทางเดินไปยังที่จอดรถ นอกจากนี้ยังมีการจัดแสดงนิทรรศการ และคาเฟ่ สำหรับให้ท่านได้เพลิดเพลิน จิบนม ชิมกาแฟ สัมผัสบรรยากาศดีๆ กับวิวภูเขาไฟฟูจิตามอัธยาศัย
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (5)
จากนั้นนำท่านสู่ น้ำตกชิราอิโตะ (Shiraito no taki) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.15 ชั่วโมง) เป็นน้ำตกตั้งอยู่ที่ เมืองฟูจิโนมิยะ จังหวัดชิซูโอกะ เป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติฟูจิฮาโกเนอิซุ ได้รับขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกพร้อมกันกับภูเขาไฟฟูจิ อุทยานแห่งชาติฟูจิฮาโกเนอิซุ และทะเลสาบฟูจิทั้งห้าภายใต้ชื่อ "ฟูจิซัง สถานที่ศักดิ์สิทธิ์และแหล่งที่มาของความบันดาลใจทางศิลปะ" เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน ค.ศ.2013 น้ำตกชิราอิโตะถือเป็นน้ำตกที่ศักดิ์สิทธิ์ มีศาลเจ้าอาซามะตั้งอยู่ ด้วยการไหลของสายน้ำที่แยกสายออกเป็นหลากร้อยเส้น ทำให้มองดูแล้วเหมือนกับเส้นด้ายสีขาว จึงเป็นที่มาของชื่อเรียกที่ว่า ชิราอิโตะ ที่แปลตรงตัวว่า ด้ายสีขาวนั่นเอง อีกทั้งที่นี่ยังมีเรื่องราวของการปฏิบัติธรรมในถ้ำที่เคยเกิดภูเขาไฟปะทุขึ้นมาด้วย จึงทำให้ผู้คนให้ความศรัทธากันว่าเป็นที่ชำระล้างจิตใจ และเป็นพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์สำคัญของผู้แสวงบุญ จึงถือเป็นพาเวอร์สปอตอีกจุดหนึ่งในญี่ปุ่น ที่นี่สามารถชมฟูจิซังได้ในมุมที่ไม่เหมือนใคร เป็นน้ำตกและภูเขาไฟฟูจิตั้งอยู่ด้านหลัง และถือเป็นจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีที่สวยงามมากอีกด้วย
เดินทางสู่ จังหวัดยามานาชิ (Yamanashi) (ใช้ระยะเวลาในการเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง) เป็นที่ตั้งของภูเขาไฟฟูจิ คุณสามารถเดินทางมาจากกรุงโตเกียวได้อย่างสะดวกสบาย แต่ที่นี่กลับให้ความรู้สึกเหมือนเป็นอีกโลกหนึ่งที่ห่างไกลจากความวุ่นวายของเมืองหลวง นอกจากภูเขาไฟฟูจิที่เป็นภูเขาศักดิ์สิทธิ์ของประเทศญี่ปุ่นแล้ว คุณยังจะได้สัมผัสกับทัศนียภาพอันงดงามตามธรรมชาติของทะเลสาบห้าแห่งรอบภูเขาไฟฟูจิ รวมทั้งรีสอร์ตซึ่งตั้งอยู่บนที่ราบสูงคิโยซาโตะ
นำท่านชม หมู่บ้านโอชิโนะฮักไก (Oshino Hakkai) เป็นในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสีเป็นจุดท่องเที่ยวสำคัญอีกสถานที่หนึ่ง โดยมีวิวภูเขาไฟฟูจิสีขาวตัดกับพื้นหลังสีฟ้า และใบไม้เปลี่ยนสี สีเหลือง แดง ส้ม เป็นภาพที่สวยงามมาก โอชิโนะฮักไกเป็นหมู่บ้านเล็กๆ ประกอบด้วยบ่อน้ำ 8 บ่อในโอชิโนะ ตั้งอยู่ระหว่างทะเลสาบคาวากูจิโกะ กับทะเลสาบยามานาคาโกะ บ่อน้ำทั้ง 8 นี้เป็นน้ำจากหิมะที่ละลายในช่วงฤดูร้อน ที่ไหลมาจากทางลาดใกล้ๆภูเขาไฟฟูจิผ่านหินลาวาที่มีรูพรุนอายุกว่า 80 ปี ทำให้น้ำใสสะอาดเป็นพิเศษ นอกจากนี้ยังมีร้านอาหาร ร้านจำหน่ายของที่ระลึก และซุ้มรอบๆบ่อ ที่ขายทั้งผัก ขนมหวาน ผักดอง งานฝีมือ และผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นอื่นๆ อิสระให้ท่านได้เพลิดเพลินกับการถ่ายรูปและซื้อของที่ระลึกตามอัธยาศัย
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร ของโรงแรม (6) พิเศษ!! อิ่มอร่อยกับ บุฟเฟ่ต์ขาปู
ที่พัก YUKARI NO MORI, YAMANAKAKO หรือเทียบเท่าระดับเดียวกัน
จากนั้นให้ท่านได้ผ่อนคลายกับการ แช่น้ำแร่ออนเซ็นธรรมชาติ เชื่อว่าถ้าได้แช่น้ำแร่แล้วจะทำให้ผิวพรรณสวยงามและช่วยให้ระบบหมุนเวียนโลหิตดีขึ้น
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (7)
นำท่านสัมผัสประสบการณ์ความสนุกสนานที่ ฟูจิเท็น สโนว รีสอร์ท (Fujiten Snow Resort) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 40 นาที) เป็นลานสกีและที่พักที่ตั้งอยู่บริเวณภูเขาไฟฟูจิ ท่านจะได้สัมผัสกับหิมะ อิสระให้ท่านเพลิดเพลินกับการลื่นไถลด้วยสกี เลือกสนุกกับสโนว์บอร์ด หรือตื่นเต้นไปกับการนั่งรถเลื่อนหิมะ ณ ลานสกีแห่งนี้ ท่านสามารถดื่มด่ำกับทัศนียภาพที่ถูกปกคลุมด้วยหิมะที่ดูแล้วสะอาดตาอย่างยิ่ง และในวันที่ท้องฟ้าแจ่มใส ท่านจะพบกับวิว ภูเขาไฟฟูจิ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์หนึ่งของประเทศญี่ปุ่น ที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกในเรื่องความสวยงามที่ธรรมชาติที่รังสรรคได้อย่างลงตัว และยังถือว่าเป็นจุดมุ่งหมายของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มาเยือนญี่ปุ่นตลอดทุกฤดูกาล
(ราคาทัวร์ไม่รวมค่าเช่าอุปกรณ์และชุดสำหรับเล่นกิจกรรมต่างๆ)
จากนั้นสัมผัสวัฒนธรรมดั้งเดิมของชาวญี่ปุ่น นั่นก็คือ การเรียนพิธีชงชาญี่ปุ่น (Sado) โดยการชงชาตามแบบญี่ปุ่นนั้น มีขั้นตอนมากมาย เริ่มตั้งแต่การชงชา การรับชา และการดื่มชา ทุกขั้นตอนนั้นล้วนมีพิธี รายละเอียดที่บรรจงและสวยงามเป็นอย่างมาก พิธีชงชานี้ ไม่ใช่แค่รับชมอย่างเดียว ยังเปิดโอกาสให้ท่านได้มีส่วนร่วมในพิธีการชงชานี้อีกด้วย และจากนั้นให้ท่านได้อิสระเลือกซื้อของที่ระลึกตามอัธยาศัย
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (8)
เดินทางสู่ กรุงโตเกียว (Tokyo) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง) เมืองหลวงของประเทศญี่ปุ่น ตั้งอยู่ในภูมิภาคคันโต (Kanto) บนเกาะฮอนชู (Honshu) ในอดีตคือเมืองเอโดะ (Edo) มีรถไฟสายยามาโนเตะ (Yamanote) วนเป็นวงกลมอยู่ใจกลางเมือง มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย เป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยวทั่วโลก
นำท่านช้อปปิ้ง ย่านช้อปปิ้งชินจุกุ (Shinjuku) ให้ท่านอิสระและเพลิดเพลินกับการช้อปปิ้งสินค้ามากมายทั้งเครื่องใช้ไฟฟ้า กล้องถ่ายรูปดิจิตอล นาฬิกา เครื่องเล่นเกมส์ หรือสินค้าที่จะเอาใจคุณผู้หญิงด้วย กระเป๋า รองเท้า เสื้อผ้า แบรนด์เนม เสื้อผ้าแฟชั่นสำหรับวัยรุ่น เครื่องสำอางยี่ห้อดังของญี่ปุ่นไม่ว่าจะเป็น KOSE, KANEBO, SK II, SHISEDO และอื่นๆ อีกมากมาย ห้ามพลาด!!! จุดเช็คอินแห่งใหม่ของชาวโซเชี่ยล นั่นก็คือ แมวยักษ์ 3 มิติ ที่โผล่บนจอแอลอีดีมีขนาดมหึมา จอมีความโค้งขนาด 154 ตารางเมตร (1,664 ตารางฟุต) เสียงที่ออกจากลำโพงคุณภาพเกรดดี ความละเอียดภาพระดับ 4K ถือเป็นเทคโนโลยีระดับสูง ที่ให้ภาพเสมือนจริงปรากฎเป็นภาพแมวเหมียวเดินเล่นไปมาอยู่เหนือกรุงโตเกียว นอกจากแมวยักษ์แล้ว ท่านยังสามารถรับชมโฆษณาต่างๆ ที่ถูกครีเอทให้เป็นภาพ 3 มิติผ่านจอแอลอีดีนี้ ไม่ว่าจะเป็น แพนด้า, รองเท้าไนกี้, น้องหมา Pompompurin, จานบิน UFO แม้แต่ หุ่นยนต์เครื่องดูดฝุ่น ท่านสามารถรับชมและเก็บภาพได้ตามอัธยาศัย
ได้เวลาอันสมควรนำท่านเดินทางสู่ เมืองนาริตะ (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง)
เย็น อิสระรับประทานอาหารเย็นตามอัธยาศัย
ที่พัก THE HEDISTAR HOTEL, NARITA หรือเทียบเท่าระดับเดียวกัน
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (9)
หลังรับประทานอาหารเช้าเรียบร้อยแล้ว นำท่านออกเดินทางสู่ ท่าอากาศยานนานาชาตินาริตะ ประเทศญี่ปุ่น (โดยรถบัสโรงแรม)
09.30 น. ออกเดินทางสู่ กรุงเทพฯ ประเทศไทย โดยสายการบิน เวียดนาม แอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ VN 301
13.45 น. เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติเตินเซินเญิ้ต นครโฮจิมินห์ ประเทศเวียดนาม เพื่อแวะเปลี่ยนเครื่อง
16.50 น. เหิรฟ้าสู่ ประเทศไทย โดยสายการบิน เวียดนาม แอร์ไลน์ เที่ยวบิน VN 607
18.30 น. เดินทางถึง ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ พร้อมความประทับใจ
**สายการบินมีบริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง**(ราคาโปรโมชั่นไม่มีอาหารบนเครื่อง)
10 LADKRABANG42 LADKRSBANG BANGKOK 10520 THAILAND